เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

ผลการดำเนินงาน
0 กรณี
ไม่มีข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม
เป้าหมาย
0 กรณี
ไม่มีข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานที่ไม่เป็นธรรม
ผลการดำเนินงาน
พนักงานมีระดับความผูกพันต่อองค์กร
เป้าหมาย
คะแนนความผูกพันพนักงานต่อองค์กร
ผลการดำเนินงาน
พนักงานทุกระดับผ่านบททดสอบการเรียนรู้หัวข้อจรรยาบรรณองค์กร รวมทั้งได้รับการพัฒนาตามแผนการพัฒนาบุคลากร
เป้าหมาย
พนักงานทุกระดับผ่านบททดสอบการเรียนรู้หัวข้อจรรยาบรรณองค์กร รวมทั้งได้รับการพัฒนาตามแผนการพัฒนาบุคลากร

ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจที่หลากหลายและมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายกลุ่ม จึงต้องบริหารบุคลากรจำนวนมากที่แตกต่างกันทั้งด้านสายงานและพื้นที่ ซึ่งต้องใช้แนวทางการพัฒนาและฝึกอบรมที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม พร้อมทั้งลงทุนอย่างต่อเนื่องในการเสริมทักษะด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี เพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัว ในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างความผูกพันของพนักงานในสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยมุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและเปิดโอกาสให้บุคลากรเติบโต พร้อมทั้งขยายแนวทางการพัฒนาไปยังคู่ค้าและซัพพลายเออร์ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบเศรษฐกิจโดยรวม

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มองเห็นโอกาสในการดึงดูดและพัฒนาบุคลากรผ่านโครงการฝึกอบรมและเสริมสร้างภาวะผู้นำ พร้อมนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลและ e-learning เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน การร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ สถาบันการศึกษา และองค์กรภาคสังคม จะช่วยขยายผลลัพธ์ของโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุด บริษัทฯ ตระหนักดีว่าการพัฒนาบุคลากรไม่เพียงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ยังเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพันธมิตรธุรกิจ และนำไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ รวมถึงสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและชุมชนที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอยู่

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มองเห็นโอกาสในการดึงดูดและพัฒนาบุคลากรผ่าน

โครงการฝึกอบรมและเสริมสร้างภาวะผู้นำพร้อมนำเทคโนโลยีมาใช้ในการ เรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลและ e-learning เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของพนักงานในทุกมิติ เพราะเชื่อว่าบุคลากรเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า และเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างความ เติบโตและความยั่งยืนขององค์กร การส่งเสริมศักยภาพบุคลากรไม่เพียงแต่ช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาทักษะของตนเองได้อย่างต่อเนื่อง แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงาน ส่งเสริมความผูกพัน และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโตของพนักงานและองค์กรไปพร้อมกัน

การประเมินผลการปฏิบัติงานและการพัฒนาศักยภาพบุคลากร

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มีระบบการประเมินผลการปฏิบัติงานแบบ Objectives and Key Results (OKRs) และ Key Performance Indicators (KPIs) ที่โปร่งใสและเป็นธรรม โดยพนักงานสามารถกำหนดเป้าหมายร่วมกับผู้บังคับบัญชา และมีการให้ข้อมูลป้อนกลับ (Feedback) อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยให้พนักงานสามารถ ปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังมีการจัดทำ แผนพัฒนารายบุคคล (Individual Development Plan: IDP) ที่ออกแบบให้ เหมาะสมกับแต่ละตำแหน่งงาน เพื่อช่วยให้พนักงานสามารถก้าวหน้าในสายอาชีพของ ตนเองได้อย่างมั่นคง

นอกจากนี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ยังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างทักษะพนักงานให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล โดยจัดหลักสูตร ฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล อาทิ Data Analytics, AI, Automation และ Digital Marketing ผ่านแพลตฟอร์ม e-Learning และเวิร์กช็อปที่จัดโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้พนักงานสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีการฝึกอบรม ด้านภาวะผู้นำ (Leadership Development) เพื่อพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพให้สามารถเติบโตเป็นผู้นำในอนาคต

หนึ่งในโครงการสำคัญของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) คือ “Power of Dream” ซึ่งเปิดโอกาสให้พนักงานทุกระดับสามารถนำเสนอแนวคิดใหม่ ๆ ในการพัฒนานวัตกรรม และปรับปรุงกระบวนการทำงาน

โดยโครงการที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหารและงบประมาณในการดำเนินการจริง ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทำงานแล้ว ยังส่งเสริมให้พนักงานเกิดความคิดสร้างสรรค์และมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กร

ในปี 2567 มีพนักงานเข้าร่วมโครงการ Power of Dream จำนวน 1,063 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 20.4 ของพนักงานทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ได้รับรางวัลทั้งสิ้น 16 โครงการ คาดการณ์ผลตอบแทนต่อการลงทุนสูงถึง 6.6 เท่า ทั้งนี้ยังจัดกิจกรรม TPOD Dreamer Coffee Talk และ The Power of Dream Boost Camp เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในองค์กรและกับพันธมิตรภายนอก

การส่งเสริมความผูกพันของพนักงานและวัฒนธรรม องค์กร

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ตระหนักดีว่าความสุขของพนักงานส่งผลโดย ตรงต่อความสำเร็จขององค์กร บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงาน ที่ดีผ่านแนวคิด “YOU ดี มีสุข” ซึ่งครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ สุขภาพกาย สุขภาพจิต สุขภาพทางการเงิน และความสัมพันธ์ โดยจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสุขภาวะของ พนักงาน เช่น การให้คำปรึกษาทางการเงิน การออกกำลังกายร่วมกัน กิจกรรม เสริมสร้างสุขภาพจิต และโครงการส่งเสริมสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน (Work-Life Balance Initiatives)

นอกจากนี้ เพื่อเสริมสร้างความผูกพันของพนักงาน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้พัฒนา แพลตฟอร์ม C-Next ซึ่งช่วยให้พนักงานสามารถบริหารจัดการเส้นทางอาชีพของตนเองได้

พร้อมทั้งติดตามความก้าวหน้าในการพัฒนาและการฝึกอบรมของตนเองผ่านระบบดิจิทัลที่สะดวกและทันสมัย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเปิดโอกาสให้พนักงาน ได้แสดงความคิดเห็นผ่าน แบบสำรวจความผูกพันของพนักงาน (Employee Engagement Survey) ซึ่งบริษัทฯ ใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการพัฒนาและปรับปรุง สภาพแวดล้อมการทำงาน บริษัทฯ ยังมี โครงการพนักงานสัมพันธ์ ซึ่งมุ่งเน้นการสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันภายในองค์กร ผ่านกิจกรรมสันทนาการ การประชุมเชิงปฏิบัติการ และการมีส่วนร่วมในโครงการเพื่อสังคม ซึ่งช่วยเสริมสร้างความสามัคคีและจิตสำนึกที่ดีให้กับพนักงาน

การขยายแนวทางการดำเนินงานไปยังคู่ค้า

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรภายในองค์กร แต่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคู่ค้าและเครือข่ายพันธมิตร โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในห่วงโซ่คุณค่าของบริษัทฯ โดยมีการจัดโครงการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านบริหารจัดการและยกระดับมาตรฐานการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังส่งเสริมแนวทางปฏิบัติด้านความยั่งยืนให้กับคู่ค้าเพื่อให้สามารถเติบโตไปพร้อมกันอย่างมั่นคง

การสรรหาบุคลการ

บริษัทฯ มีการกำหนดคุณสมบัติของบุคลากรในแต่ละตำแหน่งงานเพื่อเป็นเกณฑ์ในการสรรหาคัดเลือกทั้งจากภายใน และภายนอกองค์กร โดยไม่เลือกปฏิบัติ เปิดโอกาสให้กับบุคลากรทุกเพศสภาพ ทุกเชื้อชาติ และไม่แบ่งแยกพื้นฐานของแต่ละปัจเจกบุคคล ภายใต้แผนงานการวางอัตรากำลังคน และกลยุทธ์สรรหาและเสริมสร้าง (Build & Buy) โดยมีการวิเคราะห์และทำนายชุดข้อมูลด้วยระบบการจัดการทรัพยากรบุคคลแบบดิจิตัล (CneXt)

ช่องทางการสรรหา อัตราการการบรรจุในปี 2566

การสรรหาบุคลากรจากภายในองค์กร

  • โปรแกรม ‘โอกาสโอนย้ายภายใน’
  • โปรแกรม ‘ต่ออายุการทํางานของบุคลากรเกษียณอายุ’ เป็นรายปี หรือราย 2 ปี
  • โปรแกรม ‘โอนย้ายภายในกลุ่มเซ็นทรัล’
  • โปรแกรม “ผู้บริหารรุ่นใหม่กลุ่มเซ็นทรัล” หรือ Central Group Management Associate (MA) ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 14 แล้ว
  • เติมตำแหน่งงานที่ว่างได้ถึง 959 อัตรา หรือคิดเป็นร้อยละ 49.3 ของตำแหน่งงานที่เปิดรับ
  • ดำเนินการการต่ออายุบุคลากรเกษียณอายุในโครงการดังกล่าว จำนวน 27 คน
  • รับพนักงานโอนย้ายจากกลุ่มบริษัทในเครือฯ จำนวน 24 คน
  • บรรจุพนักงานจากโครงการ MA จำนวน 3 คน คิดเป็นร้อยละ 14.29 ของผู้เข้าร่วมในปี 2567

การสรรหาบุคลากรจากภายนอกองค์กร ผ่านสื่อและช่องทางออนไลน์ อาทิ เช่น การสรรหาผ่านบริษัทจัดหางาน การสรรหาผ่านช่องทางของบริษัทฯ https://careers.centralgroup.com/centralpattana Job board ต่างๆ เช่น JobsDB, JobThai, LinkedIn โปรแกรม referral

สามารถดำเนินการได้จำนวน 1,328 อัตรา และใช้เวลาในการสรรหาว่าจ้างเฉลี่ยเร็วขึ้นร้อยละ 9.1

ในปี 2566 ภายใต้กลยุทธ์สรรหาและเสริมสร้าง (Build & Buy) บริษัทฯ ได้นำชุดข้อมูลใบสมัคร การคัดเลือก การลาออก การเคลื่อนย้าย การเลื่อนขั้น ข้อมูลพนักงาน เกษียณ ข้อมูลจำนวนพนักงานปัจจุบัน และอัตราว่างงาน มาประมวลผลและวิเคราะห์ร่วมกัน ผลของการวิเคราะห์สามารถช่วยในการพยากรณ์และการสรรหาภายในสำเร็จ ที่ร้อยละ 42 และการเตรียมกำลังคนเพื่อทดแทนพนักงานระดับบริหารในตำแหน่งสำคัญสำเร็จร้อยละ 88

การพัฒนาบุคลากร

บริษัทฯ กำหนดแนวทางการพัฒนาบุคลากรเป็น 3 ส่วน คือ การพัฒนาสมรรถนะความสามารถและความรู้เฉพาะฝ่ายงาน (Functional Competency) การพัฒนาภาวะผู้นำ (Leadership Development) และการพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพ และผู้สืบทอดตำแหน่ง (Talent and Succession) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ รวมถึงการแข่งขันด้านการสรรหาบุคลากรในตลาดแรงงาน

ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ขยายกรอบการพัฒนาไปสู่ทักษะยุคดิจิทัล โดยพัฒนาหลักสูตร e-Learning และเวิร์กช็อปเชิงลึกในหัวข้อ AI Literacy, AI 102: Co-Pilot Workshop, Cyber Awareness และการใช้ Generative AI อย่างปลอดภัย เพื่อเตรียมความพร้อมให้พนักงานสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์บริบทขององค์กรยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและนวัตกรรม

การพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพสูง
  • สื่อสารและประชาสัมพันธ์แนวทางการจัดทำแผนพัฒนารายบุคคล ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้พนักงานกำหนดเป้าหมายทางอาชีพได้ชัดเจน สามารถวางแผนการพัฒนาอาชีพของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งทบทวน และปรับปรุงแผนพัฒนารายบุคคลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
  • โครงการพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพสูง เพื่อคัดเลือกบุคลากรที่มีผลการปฏิบัติงานดีเยี่ยม และมีศักยภาพในการเติบโตเป็นผู้บริหาร เพื่อส่งเสริมให้พนักงาน ได้รับการพัฒนาตามแผนพัฒนาศักยภาพรายบุคคล เพื่อส่งเสริมโอกาสในการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองของพนักงาน ให้พร้อมสำหรับการเติบโตภายในองค์กร ทั้งยังเป็นการรองรับ การขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ทั้งนี้จะมีการติดตามความคืบหน้าผลการพัฒนาของบุคลากรที่อยู่ในโครงการร่วมกับผู้บริหารระดับสูงและหัวหน้างานทุกไตรมาส ซึ่งรวมถึงการพิจารณาผลตอบแทน โอกาสก้าวหน้า และความผูกพันของบุคลากรที่มีต่อองค์กร
  • ดำเนินการเรื่องการวางแผนผู้สืบทอด สำหรับผู้บริหารระดับสูงในตำแหน่งสำคัญขององค์กรร่วมกับผู้บริหารสูงสุดของสายงาน ในการจัดทำแผนพัฒนา ประกอบด้วย “การวางแผนอาชีพ” (Career Plan) และ “แผนพัฒนาสายอาชีพรายบุคคล” (Individual Career Development Plan) โดยตำแหน่งสำคัญที่มีผู้สืบทอด และกำลังอยู่ในการพัฒนาตามแผนที่กำหนดไว้คิดเป็นร้อยละ 88 ของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีการติดตามความคืบหน้าผลการพัฒนาในทุก ไตรมาส
  • สนับสนุนหัวหน้างานด้วยการให้เข้าถึงชุดข้อมูลที่ถูกวิเคราะห์ผ่านระบบ Business Intelligence – BI เช่น ระดับความผูกพันของบุคลากร รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่สำคัญ เช่น ข้อมูลแสดงผลตอบแทนของพนักงานที่มีศักยภาพสูง (เพื่อพิจารณาปีละ 2 ครั้ง นอกเหนือจากการปรับเงินเดือนรอบปกติ)

การพัฒนาบุคลากรที่มีศักยภาพสูงภายใต้ความร่วมมือในกลุ่มเซ็นทรัล

  • โปรแกรมการเรียนรู้เพื่อช่วยเสริมศักยภาพในการบริหารคน
  • โปรแกรมการเรียนรู้สำหรับระดับผู้บริหาร เพื่อให้เป็นผู้นำทีมที่มีประสิทธิภาพ ผลักดันทีมให้มีศักยภาพสูงสุด โดยจะได้เรียนรู้แบบ Project-base action learning
  • โปรแกรมการเรียนรู้สำหรับทีมผู้บริหารระดับสูงโดยเฉพาะ เช่น ‘EDP - Executive Development Program’ และ ’MDP – Management Development Program’ ซึ่งเป็นโครงการรวมผู้บริหารระดับสูง จนถึงระดับกลางในทุกภาคธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล จากไทย เวียดนาม และยุโรป ภายใต้ธีม “Becoming Future-Ready Organization” โดยเน้นแผนการเรียนรู้ในเรื่อง การเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจที่จะมาถึง การเรียนรู้ภาวะการเป็นผู้นำ และการเตรียมพร้อมด้านคนเพื่อพัฒนาและรักษาคนเก่งขององค์กร และผู้สืบทอดตำแหน่งต่อไป
การพัฒนาผู้นำ
  • โครงการ ผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้าฝึกหัด หรือ GM Trainee

    ตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปศูนย์การค้า จัดเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อธุรกิจของบริษัท โดยบุคลากรที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกจะได้รับการพัฒนาความรู้ ความสามารถและทักษะครอบคลุมความรู้เรื่องการบริหารศูนย์การค้า ควบคู่กับการพัฒนาภาวะผู้นํา เน้นรูปแบบการลงมือปฎิบัติหน้างานจริง และมีผู้จัดการทั่วไปประจําสาขาเป็นพี่เลี้ยงสอน ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องกว่า 7 ปี ในปี 2566 มี GM Trainee ทั้งสิ้นจำนวน 10 คน โดยเป็นการรับจากบุคลากรภายในจำนวน 4 คน จากบริษัทในกลุ่มเซ็นทรัลจำนวน 1 คน และรับใหม่จากภายนอก 5 คน ซึ่งทั้ง 10 คนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการประเมินผลปฏิบัติงานผ่านการปฏิบัติงานจริง ในตำแหน่ง Acting Assistant General Manager

การอบรม และพัฒนาความสามารถของบุคลากร

  • การพัฒนาศักยภาพหัวหน้างาน

    People Manager Program เป็นโปรแกรมที่จะช่วยเสริม “ศักยภาพในการบริหารคน” สำหรับหัวหน้างานให้สามารถสร้างความสำเร็จผ่านทีมงานได้มากขึ้นกว่าเดิม โดยเพิ่มบทบาทการบริหารบุคคลให้กับหัวหน้างาน เป็นการเรียนแบบ Micro-learning ผ่านระบบ CneXt และผ่านระบบ Live ในปี 2566 มีผู้เข้าเรียนสำเร็จแล้วคิดเป็นร้อยละ 84 จากกลุ่มเป้าหมายที่กำหนด

  • การอบรม และเพิ่มทักษะใหม่

    ให้กับบุคลากรทุกระดับ ภายใต้การพัฒนารูปแบบ 70:20:10 ในปี 2566 มีการจัดอบรมทั้งสิ้นจำนวน 325 หลักสูตร เป็นหลักสูตร E-learning จำนวน 143 หลักสูตร และเป็นหลักสูตร Classroom จำนวน 182 หลักสูตร ทั้งนี้ผลการประเมินความพึงพอใจต่อการจัดการฝึกอบรมโดยรวมเท่ากับร้อยละ 76 (ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2565) และจำนวนชั่วโมงฝึกอบรมเฉลี่ยของบุคลากรในปี 2566 เท่ากับ 7.5 ชั่วโมงต่อคนต่อปี (ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2565) ซึ่งเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดให้เน้นการเรียนรู้จากการปฏิบัติงานจริง และส่งผลให้แนวโน้มของผลิตภาพขององค์กร (Productivity) ในปี 2566 เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 จากปี 2565

  • เสริมทักษะและจิตสำนึกด้านความยั่งยืน

    เสริมทักษะและจิตสำนึกด้านความยั่งยืน โดยจัดอบรมออนไลน์ E-Learning ในหลักสูตร

    • การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน การคำนึงถึงสิทธิมนุษยชน รวมผู้เข้าร่วม 4,856 คน
    • การป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) รวมผู้เข้าร่วม 436 คน
    • หลักสูตรอบรมด้านความปลอดภัย รวมจำนวนผู้เข้าอบรม 1,123 คน (นับซ้ำคน)
    • หลักสูตรอบรมด้านสิ่งแวดล้อม รวมจำนวนผู้เข้าอบรม 226 คน (นับซ้ำคน)
  • โปรแกรม ‘ทุนปริญญาโท

    จากการเปิดรับบุคลากรที่สนใจศึกษาต่อในระดับปริญญาโท โดยมุ่งเน้นการให้ทุนในหลักสูตรที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีและดิจิทัล และ หลักสูตรที่เกี่ยวเนื่องกับคณะวิทยาศาสตร์ข้อมูล คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะการตลาดดิจิทัล และคณะนวัตกรรมดิจิทัล เป็นต้น ทั้งนี้พนักงานต้องมีอายุงานในบริษัทฯ อย่างน้อย 2 ปี มีผลประเมินการปฏิบัติงานในระดับดีถึงดีมากติดต่อกัน 2 ปี และสามารถจัดสรรเวลาเรียนควบคู่ไปกับการทำงานประจำได้ ปัจจุบัน มีพนักงานที่ได้รับทุนทั้งสิ้น จำนวน 20 คน (ลดลงจากปี 2565 เนื่องจาก 3 คนไม่ใช้สิทธิ์รับทุน) จบการศึกษาแล้วจำนวน 15 คน และอยู่ระหว่างการศึกษาจำนวน 5 คน ทั้งนี้ในจำนวนของพนักงานที่ได้รับทุนเป็นพนักงานที่จัดอยู่ในกลุ่มที่มีศักยภาพสูง จำนวน 8 คน

การประเมินบุคลากร

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการสร้างความชัดเจนแก่พนักงานเกี่ยวกับทิศทางที่บริษัทฯ ต้องการจะผลักดัน รวมไปถึงสร้างให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างเป้าหมายองค์กรและความต้องการของพนักงาน บริษัทจึงใช้เครื่องมือบริหารเป้าหมายและติดตามผลลัพธ์สำคัญตามวัตถุประสงค์ (OKR- Objectives and Key Results) ในการวัดและประเมินผลงานของพนักงานในทุกระดับ โดยบรรจุกระบวนการประเมินผลการปฏิบัติงานรายบุคลากรดังกล่าวไว้บนระบบ CneXt โดยมีกระบวนการเริ่มต้นตั้งแต่การตั้งเป้าหมาย OKRs ไปจนถึงการพิจารณาการปรับเงินเดือน เพื่อให้การประเมินพนักงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และสร้างความมีส่วนร่วมที่เปิดโอกาสให้มีการหารืออย่างเปิดเผย บริษัทฯ ได้ใช้รูปแบบการประเมินที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Management by Objective ซึ่งเป็นการประเมินตามดัชนีชี้วัดที่ได้กำหนดร่วมกับพนักงาน Multidimensional Performance Appraisal ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้มีการประเมินแบบ 360 องศา โดยวิธีนี้เปิดให้พนักงานได้รับฟังความคิดเห็นจากมุมมองต่าง ๆ รวมถึงให้พนักงานสามารถให้ความคิดเห็นหรือข้อเสอนแนะต่อเพื่อร่วมงานและผู้บังคับบัญชา นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีวิธี Team-based performance appraisal ที่มุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์และประสิทธิภาพของทีมโดยรวม มากกว่าการประเมินผลงานของแต่ละบุคคลเพียงอย่างเดียว วิธีนี้ช่วยส่งเสริมความร่วมมือ ความรับผิดชอบร่วมกัน และการบรรลุเป้าหมายของทีม และ Agile conversation ซึ่งแนวทางการสื่อสารที่เน้นการให้ข้อเสนอแนะอย่างต่อเนื่อง การพูดคุยแบบเรียลไทม์ และการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

  • ในขั้นตอนการตั้งเป้าหมาย มีการกำหนด OKR

    เริ่มตั้งแต่ระดับองค์กร ระดับหน่วยธุรกิจ ระดับสายงาน ระดับทีม ลงไปจนถึงระดับพนักงานรายบุคคล ซึ่ง OKRs ในแต่ละระดับจะมีความคอดคล้องกัน และโยงไปสู่เป้าหมายในระดับองค์กร นอกจากนี้บริษัทฯ ยังจัดให้มีการเทียบเคียงเป้าหมายในระดับหน่วยธุรกิจและสายงาน เพื่อผลักดันการทำงานและการประสานงานข้ามหน่วยงาน รวมไปถึงการประเมินผลแบบทีม (team-based appraisal) เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการผลักดันให้เป้าหมายขององค์กร และสร้างแรงจูงใจให้พนักงานแสดงศักยภาพสูงสุดของตนเอง

  • ในขั้นตอนการติดตามความก้าวหน้าของผลปฏิบัติงานระหว่างปี

    บริษัทฯมีการนำกระบวนการพูดคุยการประเมินผลงาน (Performance Conversation) ระหว่างหัวหน้างานและผู้ใต้บังคับบัญชามาใช้ปีละ 2 ครั้ง โดยปรับใช้วิธีการโค้ชและการให้ฟีดแบค (Coaching and Feedback) รวมไปถึงผลจากการประเมิน 360 องศาจากผู้บังคับบัญชาทางอ้อม ผู้ใต้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงาน เพื่อให้พนักงานทราบถึงสิ่งที่จำเป็นต้องพัฒนาและสิ่งที่ทำได้ดี

  • หลังจากการประเมินผลงานปลายปี

    เมื่อหัวหน้างานประเมินผลงานพนักงานของตนเรียบร้อย บริษัทฯ มีการจัดการประชุมเพื่อเทียบเคียงผลการประเมินของพนักงานในระดับหน่วยธุรกิจเดียวกัน (Calibration) เพื่อให้การประเมินผลงานมีมาตรฐานที่ใกล้เคียงกัน และสะท้อนถึงผลงานของพนักงานอย่างแท้จริง

  • ในแต่ละขั้นตอนการประเมินผลงานจะถูกจัดทำผ่านระบบ CneXt

    เพื่อให้รวดเร็วและง่ายต่อการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อใช้ในการบริหารจัดการเรื่องอื่นๆ รวมไปถึงการปรับเงินเดือนและโบนัสได้อย่างเป็นธรรม รวดเร็ว และมีความเป็นระบบ

การดูแลบุคลากร

บริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดูแลเอาใจใส่บุคลากรในองค์กร ทั้งนี้เพื่อให้บุคลากรสามารถผ่อนคลายหรือลดแรงกดดันจากการทำงาน ตลอดจนเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน รวมถึงการสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ตอบโจทย์การทำงานในแต่ละวัน

1. คณะกรรมการสวัสดิการภายในสถานประกอบการ

บริษัทฯ มีการจัดตั้งคณะกรรมการสวัสดิการภายในสถานประกอบการ เพื่อให้มีตัวแทนของบุคลากรในการร่วมปรึกษาหารือกับองค์กรในการจัดสวัสดิการที่จำเป็น และเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดความต้องการสวัสดิการของบุคลากรให้องค์กรทราบ รวมทั้งร่วมปรึกษาหารือให้ข้อเสนอแนะ ตลอดจนตรวจสอบ ดูแล การจัดสวัสดิการภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

2. นโยบายในการทำงาน และสวัสดิการในสถานที่ทำงาน

บริษัทฯ ส่งเสริมมาตรการทำงานนอกสถานที่ หรือ WFH - Work from Home และจัดสรรโปรแกรมเข้างานแบบไฮบริด คือ ลดวันเข้าทำงานในสำนักงานลงจากสัปดาห์ละ 5 วันเป็น 4 วันตามความเหมาะสมของลักษณะงาน รวมถึงส่งเสริมการจัดการประชุมออนไลน์ผ่านเครื่องมือต่างๆ เช่น Microsoft Teams เพื่อความสะดวก และมีประสิทธิภาพ โดยบริษัทฯ ได้มีการจัดสรรคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คให้กับพนักงานกว่าร้อยละ 100 (เฉพาะพนักงานที่จำเป็นต้องใช้ในการทำงาน) พร้อมกันนั้นยังได้มีการจัดเตรียมห้องประชุมเก็บเสียงที่หลากหลายทั้งแบบทางการ และไม่เป็นทางการ รวมถึงห้องประชุมขนาดใหญ่ พร้อมระบบถ่ายทอดสดออนไลน์สำหรับการจัดงานประชุมบริษัท (Townhall) เพื่ออำนวยความสะดวกในการประชุมทั้งแบบเจอหน้า และแบบออนไลน์ให้กับบุคลากรขององค์กรเพื่อให้สอดรับการนโยบายการทำงานแบบไฮบริด

นอกจากนั้น ยังคงดำเนินโครงการปรับปรุงสถานที่ทำงานของพนักงานภายใต้ โครงการ “สมาร์ทออฟฟิศ - Smart Office” ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น และเลือกเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน มีการจัดทำแผนตรวจติดตามสุขอนามัยในที่ทำงานของพนักงาน (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งจากแผนลดความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนของพนักงาน) และเพิ่มพารามิเตอร์ด้านการตรวจคุณภาพอากาศ และตรวจวัดฝุ่น สอดคล้องตามรอบการประเมินคุณภาพอากาศในศูนย์การค้าของบริษัทฯ

บริษัทฯ ยังสนับสนุน และอนุญาตให้พนักงานใช้สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับลูกค้า เช่น ห้องให้นมบุตร ห้องละหมาด และให้สิทธิพิเศษในการใช้บริการจากผู้ประกอบการร้านค้า เช่น ส่วนลดพิเศษสำหรับการใช้บริการผู้ให้บริการสถานที่ออกกำลังกาย (Fitness) ส่วนลดในการตรวจสุขภาพเพิ่มเติมนอกเหนือจากแผนตรวจสุขภาพประจำปีของบริษัทฯ ให้กับตนเองและครอบครัว การทำประกันสุขภาพโรคร้ายสำหรับพนักงาน การทำประกันสุขภาพสำหรับสมาชิกในครอบครัวด้วยอัตราพิเศษ และความช่วยเหลือเมื่อต้องการโลหิตกรณีฉุกเฉิน รวมไปถึงการขยายสวัสดิการเบิกค่ารักษาพยาบาลครอบคลุมโรคออฟฟิศซินโดรม และโรคที่เกี่ยวกับสุขภาพจิต และจัดโปรแกรมดูแลสุขภาวะทางกาย (Physical Wellbeing) ให้พนักงานได้ออกกำลังกายในร่ม เช่น ไพล็อกซิ่ง (Piloxing) หรือโยคะ และผ่อนคลายด้วยคอร์สนวดบำบัดโดยคนพิการทางสายตา

บริษัทฯ นำผลประเมินความผูกพันพนักงาน ผลประเมินความเสี่ยงด้านสิทธิมนุษยชนของพนักงาน ผลการวิเคราะห์ด้านการบริหารทุนมนุษย์ที่เกี่ยวข้อง มาวิเคราะห์ ปรับปรุง และพัฒนาสวัสดิการพนักงาน ได้แก่ สนับสนุนการทำงานแบบสัญญาจ้าง (Part-time) สำหรับตำแหน่งงานที่ว่าจ้าง โดยเฉพาะการต่ออายุงานพนักงานเกษียณ หรือกรณีจัดงานศพของคนในครอบครัว ส่งเสริมและให้ความรู้ด้านออมทรัพย์ และการจัดการการเงินแก่พนักงานผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์พนักงานกลุ่มเซ็นทรัล และสร้างหลักประกันความมั่นคงให้ครอบครัวหากเสียชีวิตผ่านสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์สหกรณ์ออมทรัพย์และพนักงานกลุ่มเซ็นทรัล ออกสวัสดิการเบิกเงินเดือนระหว่างเดือน เพื่อช่วยพนักงานที่ประสบปัญหาด้านการเงินกระทันหัน นำร่องในการออกโปรแกรมสนับสนุนให้พนักงานใกล้เกษียณเป็นผู้ประกอบการในธุรกิจศูนย์อาหารของบริษัทฯ

ในส่วนกิจกรรมพนักงานสัมพันธ์นั้น บริษัทฯ เน้นเรื่องการกีฬา และการสมาคม โดยร่วมกับบริษัทในกลุ่มเซ็นทรัลจัดงานกีฬากลุ่มเซ็นทรัล จัดแข่งฟุตบอลระหว่างสาขาภายในเขตภูมิภาคเดียวกัน และจัดปาร์ตี้ (Friday Playtime) หลังเลิกงาน หรืองาน Staff Party และกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทีม (Team Building)กิจกรรมตามเทศกาลต่างๆ เช่น สงกรานต์ เพื่อให้พนักงานได้สังสสรค์และผ่อนคลายตามไลฟ์สไตล์คนชอบปาร์ตี้

การสร้างวัฒนธรรมองค์กร

บริษัทฯ ได้นำความเชื่อทั้ง 4 มาปรับสู่ลักษณะพฤติกรรมของบุคลากรในการทำงานที่ต้องการ ให้บุคลากรแสดงออกอย่างสม่ำเสมอ ผ่านกิจกรรมขับเคลื่อน สื่อสาร ทำความเข้าใจ แสดงให้เห็นด้วยการลงมือทำ และแบ่งปันประสบการณ์ของเพื่อนพนักงานด้วยกันเอง ทั้งจากผู้บริหารระดับสูง ระดับกลาง และระดับปฏิบัติการ อย่างต่อเนื่อง มีการนำประเด็นสำคัญด้านความยั่งยืน เช่นหลักบรรษัทภิบาล การจัดการความเสี่ยง การบริหารจัดการนวัตกรรม การเคารพในหลักสิทธิมนุษยชน และการคำนึงอาชีวอนามัยและความปลอดภัย มาบูรณาการในแผนงานสร้างวัฒนธรรมองค์กร

ด้านสิทธิมนุษยชน:

บริษัทฯ บูรณาการแผนการจัดการผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชนในแผนการสื่อสารองค์กรปี 2566 ภายใต้ชื่อ “RESPECT!” โดยฝ่าย Company Secretary ร่วมกับ People Group มีการสื่อสารแคมเปญผ่านทางอีเมลภายใน Workplace และ Viva Engage ถึงพนักงานเซ็นทรัลพัฒนาและกลุ่มบริษัทในเครือ จำนวน 10 ครั้ง พร้อมจัดงานงาน Corporate Governance Day 2023 (CG Day) ภายใต้หัวข้อ RESPECT เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 ถึงพนักงานทั่วประเทศ มีผู้เข้าร่วมงาน 840 คน

ด้านการจัดการความเสี่ยง:

เพื่อเปลี่ยนสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล (Digital Organization) บริษัทฯ ได้นำระบบเทคโนโลยีบริหารและจัดการงานบุคคล CneXt มาใช้ในการบริหารจัดการงานบุคคล โดย CneXt สามารถอำนวยความสะดวกในทุกประสบการณ์ของพนักงานในการบริหารจัดการงานบุคคล แบบ real time ได้ทุกที่ ทุกเวลา ทุกอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ และพกพา ครอบคลุมงานตั้งแต่การสรรหา การต้อนรับพนักงานใหม่ การโค้ชและให้ข้อมูลป้อนกลับผู้ใต้บังคับบัญชา การจัดการเวลาทำงาน การเบิกจ่ายสวัสดิการ การมองหางานเพื่อหมุนเวียนภายในองค์กร การตั้งเป้าหมาย ประเมินและวัดผล การจัดทำแผนพัฒนาส่วนบุคคล การวางแผนผู้สืบทอด การอบรมคอร์สออนไลน์ รวมไปถึงการลาออก

ด้านความปลอดภัย:

บริษัทฯ นำมาตรฐาน ISO 45001 มาประยุกต์ใช้ในการบันทึกข้อมูล กำหนดให้มีการแจ้งอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดกับลูกค้า พนักงานร้านค้า พนักงานรับเหมาช่วง รวมถึงพนักงานของบริษัทฯ ในระบบ Smart Property เพื่อแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่ออุบัติเหตุนั้นอย่างทันที ทำการบันทึกสถิติการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น การแก้ไข และการเยียวยา เพื่อสอบสวน ติดตาม แก้ไข และป้องกันมิให้เกิดเหตุดังกล่าวอีกในอนาคต บริษัทฯ ได้จัดตั้งคณะกรรมการความปลอดภัยอาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) ทั้งในระดับองค์กรและในระดับสาขา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันนโยบายและแผนงานด้านความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ การประสบอันตราย การเจ็บป่วย การเกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญอันเนื่องจากการทำงาน หรือความไม่ปลอดภัยในการทำงานเสนอต่อนายจ้าง ปัจจุบันบริษัทฯ มีพนักงานร่วมเป็นคณะกรรมการฯ ทั้งสิ้นจำนวน 367 คน แยกเป็นตัวแทนนายจ้างจำนวน 159 คน และเป็นตัวแทนลูกจ้างจำนวน 210 คน คิดเป็นร้อยละ 7 ของพนักงานทั้งหมด (ไม่รวมพนักงานสัญญาจ้าง) มีผู้บริหารระดับสูงเป็นประธานคณะกรรมการความปลอดภัยส่วนกลาง ดูแลภาพรวมในเรื่องดังกล่าว และกำหนดผู้จัดการศูนย์การค้าเป็นประธานคณะกรรมการฯ ในระดับปฏิบัติการ รายงานสถิติดังกล่าวรวมในการรายงานอุบัติการต่อคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง และคณะกรรมการนโยบายความเสี่ยงในทุกไตรมาส

ด้านความผูกพันองค์กร:

บริษัทฯ ประเมินความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร หรือ “CG Voice” ปีละ 2 ครั้ง ตามกรอบการประเมินความผูกพันของพนักงานสู่การเป็นองค์กรในหัวใจพนักงาน (Employer of Choice) ของบริษัทคินเซนทริค ซึ่งประเมินในมิติ

ความผูกพันองค์กร ผ่าน พฤติกรรม การพูด-การอยู่ และการพยายาม สุดความสามารถ
ภาพลักษณ์องค์กร
กระบวนการและทรัพยากร ในการทำงาน
ลักษณะงานที่ทำ
โอกาสก้าวหน้าในงาน

โดยผลการประเมินความผูกพันและปัจจัยที่ส่งผลต่อคะแนนความผูกพันจะถูกนำไปวิเคราะห์ และพัฒนาแผนงานยกระดับความผูกพันของบุคลากร กำหนดโดยทีมบริหารจัดการของแต่ละหน่วยงาน และบรรจุเป็นเป้าหมาย OKR สำหรับหัวหน้างานที่มีผู้ใต้บังคับบัญชา

มุ่งสู่การเป็นองค์กรแห่งอนาคต

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เชื่อว่าการลงทุนในการพัฒนาบุคลากรเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสามารถในการแข่งขันขององค์กรและส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน การดำเนินโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความผูกพันของพนักงานอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร และสามารถเติบโตไปพร้อมกับบริษัทฯ ได้อย่างมั่นคง

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

พนักงาน