
การกำกับดูแลกิจการ และการปฏิบัติตามข้อกำหนด
เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

ผลการดำเนินงาน
เป้าหมาย
ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจโดยมุ่งมั่นในการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษามาตรฐานด้านจริยธรรมและการปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายให้สอดคล้องกันในทุกหน่วยธุรกิจ นอกจากนี้ สภาพแวดล้อมทางกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องยังต้องการให้บริษัทฯ มีการติดตาม ปรับปรุง และปรับตัวอย่างทันท่วงที เพื่อให้มั่นใจว่านโยบายและแนวปฏิบัติของบริษัทฯ ยังคงเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมายในทุกเขตอำนาจศาลที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอยู่ อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งในยุคดิจิทัล การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง บริษัทฯ ต้องดำเนินมาตรการที่รัดกุมเพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าและคู่ค้า
อย่างไรก็ตาม บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มองเห็นโอกาสในการเสริมสร้างความไว้วางใจและชื่อเสียงขององค์กรผ่านแนวปฏิบัติด้านธรรมาภิบาลที่เข้มแข็ง ซึ่งช่วยเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว วัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบจะช่วยส่งเสริมให้พนักงานทุกระดับปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมทางธุรกิจอย่างเคร่งครัด
แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใส มีจริยธรรม และยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างความไว้วางใจให้แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม การกำกับดูแลกิจการอย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างเสถียรภาพทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยปฏิบัติตามมาตรฐานสากลที่เกี่ยวข้อง อาทิ หลักการของ UN Global Compact ซึ่งครอบคลุมประเด็นด้านสิทธิมนุษยชน การส่งเสริมแรงงาน สิ่งแวดล้อม และการต่อต้านการทุจริต พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับแนวปฏิบัติด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการดำเนินงานของบริษัทฯ สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม อีกทั้ง ยังได้บูรณาการการบริหารความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG Risk Management) เข้ากับกระบวนการบริหารความเสี่ยงขององค์กร (Enterprise Risk Management: ERM) เพื่อรองรับความเสี่ยงสำคัญทั้งในระยะสั้นและระยะยาว อาทิ ความเสี่ยงด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามกรอบ IFRS S2 พร้อมทั้งกำหนดมาตรการเชิงรุกเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจส่งผลกระทบต่อเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593
โครงสร้างการกำกับดูแลที่เข้มแข็ง
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มีคณะกรรมการบรรษัทภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นหน่วยงานหลักที่กำกับดูแลด้านธรรมาภิบาลและความยั่งยืนขององค์กร พร้อมด้วยคณะกรรมการตรวจสอบและธรรมาภิบาล ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงานให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายการกำกับดูแลกิจการและจรรยาบรรณธุรกิจ เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานของพนักงาน ผู้บริหาร และคู่ค้า ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และยึดมั่นในหลักความโปร่งใสและความรับผิดชอบ
นอกจากนี้ คณะกรรมการบรรษัทภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืนยังมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลเชิงนโยบายด้านธรรมาภิบาล ความยั่งยืน และการบริหารความเสี่ยงสำคัญขององค์กร ตลอดจนติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินงานตามเป้าหมาย Net Zero และกลยุทธ์ ESG อย่างใกล้ชิด ผ่านการประชุมติดตามผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ
ในด้านการบริหารความเสี่ยง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้บูรณาการแนวทาง Governance, Risk & Compliance (GRC) เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และรักษาความเชื่อมั่นของผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม โดยเฉพาะการบริหารจัดการความเสี่ยงด้าน ESG และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งมีการนำหลักเกณฑ์ของ IFRS S2 มาพิจารณาประกอบการบริหารเชิงกลยุทธ์ เพื่อรองรับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระยะยาว
การบริหารความเสี่ยงและการปฏิบัติตามข้อกำหนด
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ดำเนินการบริหารความเสี่ยงในระดับองค์กรผ่านกระบวนการ Enterprise Risk Management (ERM) ซึ่งครอบคลุมการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะด้าน ESG เพื่อให้สามารถคาดการณ์และจัดการกับความท้าทายที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและไซเบอร์ซีเคียวริตี้ โดยได้กำหนดกรอบการกำกับดูแลความเสี่ยงไซเบอร์ภายใต้การกำกับของคณะกรรมการตรวจสอบและธรรมาภิบาล พร้อมส่งเสริมการพัฒนาความรู้ ความเข้าใจด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ให้แก่พนักงานในทุกระดับ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความพร้อมในการรับมือกับภัยคุกคามด้านดิจิทัลที่อาจเกิดขึ้นในทุกจุดของห่วงโซ่ธุรกิจ
ในขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีระบบ Due Diligence เพื่อประเมินและลดความเสี่ยงในกระบวนการทำงาน โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยของข้อมูล การปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และมาตรฐานการดำเนินธุรกิจของคู่ค้า ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ส่งเสริมให้คู่ค้าปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลและแนวทางความยั่งยืน ผ่านการสื่อสารและติดตามผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
ระบบการร้องเรียนและมาตรการป้องกันการทุจริต
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้จัดตั้งช่องทาง Whistleblower เพื่อเปิดโอกาสให้พนักงานและผู้มีส่วนได้เสียสามารถแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการทุจริตหรือการกระทำที่ไม่เป็นไปตามจรรยาบรรณขององค์กร โดยทุกกรณีร้องเรียนจะได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการสอบสวนภายใน และดำเนินการแก้ไขตามกระบวนการที่เหมาะสม
บริษัทฯ ได้ดำเนินมาตรการต่อต้านการทุจริตอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ โดยได้รับการรับรองสถานะสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (CAC) ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 และมีการสอบทาน ตลอดจนพัฒนากระบวนการป้องกันการทุจริตในทุกระดับองค์กรเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรแห่งความโปร่งใส ความซื่อสัตย์สุจริต และความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวทางการกำกับดูแลของบริษัทฯ ได้ที่: