
การบริหารจัดการนวัตกรรม
เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

ผลการดำเนินงาน
เป้าหมาย
ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งมาพร้อมทั้งความท้าทายและโอกาสในการบริหารจัดการนวัตกรรม บริษัทฯ ต้องติดตามและปรับตัวให้ทันกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี รวมถึงบูรณาการนวัตกรรมเข้าสู่ทุกกระบวนการทางธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกัน การสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนานวัตกรรมและการบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่านวัตกรรมสามารถตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่หลากหลาย และนำไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
ในขณะเดียวกัน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มองเห็นโอกาสในการใช้เทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และลดต้นทุน พร้อมทั้งสร้างแนวทางใหม่ในการพัฒนาโมเดลธุรกิจที่ตอบโจทย์ตลาดในอนาคต นอกจากนี้ นวัตกรรมยังช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ควบคู่ไปกับการสนับสนุนแนวปฏิบัติด้านความยั่งยืน โดยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและตอบโจทย์ประเด็นทางสังคม การใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์เชิงลึกจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพ รองรับแนวโน้มตลาด และสร้างคุณค่าในระยะยาวได้อย่างต่อเนื่อง
แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นในการบริหารจัดการนวัตกรรมอย่างเป็นระบบ โดยผสานนวัตกรรมเข้ากับทุกกระบวนการในห่วงโซ่คุณค่าทางธุรกิจ ทั้งในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ การปรับปรุงกระบวนการภายใน และการเสริมสร้างความร่วมมือกับคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ เป้าหมายของบริษัทฯ คือการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม นวัตกรรมไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องมือที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความแตกต่างทางการแข่งขัน และช่วยให้บริษัทฯ สามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค
นวัตกรรมที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยใช้ข้อมูลเชิงลึกและความคิดเห็นของลูกค้าเป็นแนวทางหลักในการปรับปรุงและพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริง บริษัทฯ ดำเนินการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ความคิดเห็น และศึกษาปัญหาหรือความท้าทายที่ลูกค้าพบเจอ เพื่อนำมาออกแบบบริการที่สามารถตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการปรับปรุงและพัฒนานี้ใช้แนวคิด Kaizen และ PDCA (Plan-Do-Check-Act) ซึ่งเป็นแนวทางที่ช่วยให้สามารถปรับปรุงกระบวนการได้อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นไปที่การลดข้อผิดพลาด เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าและผู้ใช้บริการ การดำเนินงานตามแนวทางนี้ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าในทุกจุดสัมผัส รวมถึงช่วยให้สามารถนำเสนอบริการที่มีความยืดหยุ่นและตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ
โครงการนวัตกรรมภายในองค์กร
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) สนับสนุนการสร้างสรรค์นวัตกรรมจากภายในองค์กร โดยกระตุ้นให้พนักงานมีส่วนร่วมในการนำเสนอแนวคิดและแนวทางใหม่ ๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และปรับปรุงกระบวนการทำงาน ผ่านโครงการ "Power of Dream" ซึ่งเปิดโอกาสให้พนักงานจากทุกระดับสามารถนำเสนอแนวคิดนวัตกรรมที่สามารถนำไปพัฒนาและประยุกต์ใช้ได้จริง
นอกจากนี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ยังดำเนินโครงการ Dream Team และ Dream Big เพื่อเป็นเวทีให้พนักงานได้แสดงศักยภาพในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดความซับซ้อนของกระบวนการ และสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม การมีส่วนร่วมของพนักงานในโครงการเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมสร้างวัฒนธรรมแห่งนวัตกรรมที่แข็งแกร่งภายในองค์กร ทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการแข่งขัน และสามารถนำเสนอแนวทางที่สร้างความแตกต่างในตลาดได้อย่างต่อเนื่อง
เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยพัฒนาแพลตฟอร์มและโซลูชันดิจิทัลที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และยกระดับประสบการณ์ของลูกค้า ผู้เช่า และคู่ค้า ตัวอย่างสำคัญของนวัตกรรมในด้านนี้ ได้แก่ Central Offices และ Central Pattana SERVE ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยให้ผู้เช่าสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่เช่า จัดการธุรกรรมออนไลน์ และเข้าถึงบริการที่จำเป็นได้อย่างสะดวก
นอกจากนี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ยังมุ่งเน้นการเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล รวมถึงการพัฒนา Big Data Analytics เพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความซับซ้อนและนำไปใช้ประโยชน์ในการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจได้อย่างแม่นยำ การพัฒนาในด้านนี้ช่วยให้บริษัทฯ สามารถสร้างสรรค์โซลูชันที่สามารถคาดการณ์แนวโน้มของตลาดได้ล่วงหน้า และตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล
บริษัทฯ นำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน และการทำตลาดแบบ Omnichannel เพื่อตอบสนองผู้มีส่วนได้เสียที่เป็นสำคัญ ได้แก่ ลูกค้า ร้านค้า คู่ค้า และพนักงาน ให้เกิดประโยชน์ในเชิงธุรกิจยิ่งขึ้น สร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้น และอำนวยความสะดวกให้คล่องตัวมากขึ้น อีกทั้งนำมาจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลสารสนเทศและการวิเคราะห์ข้อมูลบิ๊กดาต้าให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ดังนี้
กลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย
นวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล | ผลสัมฤทธิ์ |
---|---|
|
|
|
|
|
|
ใช้บริการอาคารออฟฟิศ
นวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล | ผลสัมฤทธิ์ |
---|---|
|
|
ลูกบ้าน
นวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล | ผลสัมฤทธิ์ |
---|---|
|
|
ร้านค้า
นวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล | ผลสัมฤทธิ์ |
---|---|
|
|
|
|
คู่ค้า
นวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล | ผลสัมฤทธิ์ |
---|---|
|
|
|
|
พนักงาน
นวัตกรรมทางเทคโนโลยีดิจิทัล | ผลสัมฤทธิ์ |
---|---|
|
|
|
|
|
|
นวัตกรรมที่เกิดจากหน่วยงานภายในองค์กร หรือโครงการ Power of Dream
โครงการ Power of Dream คือ โครงการที่นำ 4 ความเชื่อของบริษัทฯ โดยเฉพาะความเชื่อ ‘พัฒนาสิ่งใหม่อย่างไม่หยุดนิ่ง’ มาดำเนินการให้เกิดขึ้นจริงเป็นวัฒนธรรมองค์กร โดยส่งเสริมให้พนักงานมีส่วนร่วมในการพัฒนาสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ รวมทั้งปรับปรุงคุณภาพและยกระดับมาตรฐานการทำงานอย่างต่อเนื่อง สร้างบรรยากาศแห่งการแลกเปลี่ยน และการแบ่งปันความรู้ให้เกิดขึ้นในองค์กรซึ่งจัดต่อเนื่องทุกปี
นวัตกรรมที่เกิดจากความร่วมมือกับคู่ค้าหรือหน่วยงานภายนอก
บริษัทฯ นำผลจากการรับฟังเสียงผู้มีส่วนได้เสียหลักมาวิเคราะห์ร่วมกับคู่ค้าในการปรับปรุง พัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการ และกระบวนการ เพื่อแก้ไขและนำเสนอสิ่งใหม่ ๆ ให้กับกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียนั้น ๆ โดยใช้วิธีการทดลองนำร่องรับความคิดเห็น ปรับปรุง วนซ้ำ แล้วจึงขยายผล โดยสามารถจำแนกการบริหารจัดการนวัตกรรมออกได้เป็น
- การจัดซื้อจัดจ้างเพื่อสนับสนุนนวัตกรรม คือ การจัดซื้อจัดจ้างผลิตภัณฑ์หรือบริการที่จัดเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ ในท้องตลาด อาทิ · หุ่นยนต์ทำความสะอาดเพื่อลดกำลังคนในการทำความสะอาดเมื่อศูนย์การค้าปิด · จอภาพ Visual Displayแบบโปร่งแสงซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในท้องตลาด ทดลองติดตั้งในเซ็นทรัล รามอินทรา · เครื่องย่อยสลายขยะเป็นน้ำทิ้ง(Grey Water) โดยความร่วมมือภายใต้โครงการ CSR ทดลองติดตั้งในเซ็นทรัล เวสต์เกต
- ร่วมมือกับคู่ค้าเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ร่วมกัน อาทิ · ร่วมมือกับ SCG Building ในการทดลองติดตั้งระบบบำบัดอากาศเสียในเซ็นทรัล อยุธยา เพื่อช่วยทำให้อากาศในอาคารดีขึ้นด้วยการดูดซับมลพิษที่เกิดขึ้นในอาคาร ช่วยให้อากาศภายในอาคารสะอาด และประหยัดพลังงานมากยิ่งขึ้น · ร่วมมือกับไทวัสดุ และ Gulf ในการนำร่องติดตั้งระบบผลิตพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์แบบสัมปทาน โดย Gulf ติดตั้งแผงผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารไทวัสดุแล้วจ่ายไฟผ่านสายส่งมาให้กับเซ็นทรัล ศาลายา
ความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อพัฒนานวัตกรรม
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างนวัตกรรมผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยดำเนินโครงการที่มุ่งเน้นการพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ ร่วมกับคู่ค้าเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและส่งเสริมความยั่งยืน ตัวอย่างของความร่วมมือเหล่านี้ ได้แก่ การทำงานร่วมกับ SCG Building ในการพัฒนาระบบบำบัดอากาศเสียเพื่อลดมลภาวะในอาคาร การร่วมมือกับ Thai Watsadu และ Gulf Energy เพื่อดำเนินโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ และการร่วมมือกับพันธมิตรภายนอกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งการทำงานร่วมกับพันธมิตรช่วยให้บริษัทฯ สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ และแนวคิดที่หลากหลาย ซึ่งนำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมที่สามารถสร้างคุณค่าให้กับผู้มีส่วนได้เสียในระยะยาว
การขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยข้อมูล
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลในการขับเคลื่อนนวัตกรรม โดยนำ Power BI และเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง มาประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ ข้อมูลที่ได้รับจากกระบวนการวิเคราะห์ถูกนำไปใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ปรับปรุงกลยุทธ์ และเพิ่มศักยภาพในการตัดสินใจทางธุรกิจ
การติดตามและประเมินผลนวัตกรรม
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญกับการติดตามและประเมินผลของนวัตกรรมที่พัฒนา โดยใช้ตัวชี้วัดที่ชัดเจน เช่น การลดต้นทุนการดำเนินงาน การเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการให้บริการ รวมถึงการวัดระดับความพึงพอใจของลูกค้า การประเมินผลอย่างต่อเนื่องช่วยให้บริษัทฯ สามารถระบุจุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุงของแต่ละโครงการนวัตกรรม ทำให้สามารถพัฒนาโซลูชันที่มีความยั่งยืนและสร้างคุณค่าในระยะยาว
แนวทางนวัตกรรมแบบยืดหยุ่น
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ใช้แนวทางที่ยืดหยุ่นและคล่องตัวในการบริหารจัดการนวัตกรรม โดยนำแนวคิด Agile Innovation มาใช้ในกระบวนการพัฒนาโซลูชันใหม่ ๆ แนวทางนี้ช่วยให้สามารถทดสอบและปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงสามารถนำโครงการนำร่องไปทดลองใช้จริง และขยายผลในวงกว้าง
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนองค์กรผ่านนวัตกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน พร้อมทั้งส่งเสริมความยั่งยืนในระดับองค์กร ชุมชน และสิ่งแวดล้อม การดำเนินงานด้านนวัตกรรมของบริษัทฯ ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างมูลค่าให้กับธุรกิจ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในระยะยาว