เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

ผลการดำเนินงาน
5%
ในปี 2567 ปริมาณการดึงน้ำใช้จากแหล่งภายนอกที่ลดลง
เป้าหมาย
12%
ดึงน้ำใช้จากแหล่งภายนอกที่ลดลงแบบสะสม ภายในปี 2573
ผลการดำเนินงาน
5%
ในปี 2567 เพิ่มสัดส่วนการใช้น้ำรีไซเคิล (เทียบกับปี 2566)
เป้าหมาย
35%
เพิ่มสัดส่วนการใช้นํ้ารีไซเคิล ภายในปี 2573

ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ

ในการดำเนินงานของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และศูนย์การค้า น้ำเป็นทรัพยากรที่จำเป็นต่อการดำเนินงานและเป็นปัจจัยสำคัญต่อความยั่งยืนของธุรกิจ อย่างไรก็ตาม บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีปัญหาขาดแคลนน้ำและน้ำท่วมรุนแรง เช่น ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งอาจส่งผลโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจ และหากไม่มีการบริหารจัดการที่เหมาะสม อาจนำไปสู่ต้นทุนที่สูงขึ้น

การบริหารจัดการน้ำที่ไม่มีประสิทธิภาพไม่เพียงส่งผลต่อการดำเนินงานของธุรกิจเท่านั้น แต่ยังอาจทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น และหากไม่มีมาตรการในการจัดการน้ำเสียที่เหมาะสม อาจทำให้แหล่งน้ำปนเปื้อนจนเป็นสาเหตุของข้อร้องเรียนจากชุมชน ซึ่งรวมถึงความเสี่ยงด้านสิทธิชุมชนจากการใช้น้ำสาธารณะโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบ ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ต้องวางระบบบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและคำนึงถึงความต้องการน้ำในแต่ละพื้นที่ของศูนย์การค้า ทั้งพื้นที่สาธารณะ ห้องสุขา การรดน้ำต้นไม้ การทำความสะอาด รวมถึงพื้นที่ของผู้เช่าที่มีการใช้น้ำแตกต่างกันตามลักษณะของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารที่ต้องใช้น้ำสำหรับประกอบอาหารและล้างอุปกรณ์ หรือร้านค้าปลีกที่ใช้เพื่อทำความสะอาดพื้นที่ อย่างไรก็ตาม บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ตระหนักดีว่า การบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ไม่เพียงแต่ช่วยลดต้นทุน แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร นอกจากนี้ การดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อ

วางระบบบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบและคำนึงถึงความต้องการน้ำในแต่ละพื้นที่ของศูนย์การค้า

แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นบริหารจัดการทรัพยากรน้ำและน้ำเสียอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาโครงการ การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม โดยยึดหลัก 3R ได้แก่ การลดการใช้น้ำ (Reduce) การใช้น้ำซ้ำ (Reuse) และการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่หลังการบำบัด (Recycle) อย่างครอบคลุมในทุกศูนย์การค้าทั่วประเทศ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายการนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำให้ได้ร้อยละ 20 ภายในปี 2568 และการนำน้ำกลับมาใช้ในกิจกรรมที่สามารถใช้น้ำซ้ำได้ครอบคลุม 100% ภายในปี 2568 รวมถึงการลดความเข้มข้นของการใช้น้ำ (Water Intensity) ลงร้อยละ 10 ภายในปี 2573

ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ติดตั้งระบบผลิตน้ำรีไซเคิลแล้วใน 17 โครงการ โดยสามารถผลิตน้ำรีไซเคิลได้รวมทั้งสิ้น 596,762 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 4.7 ของปริมาณการใช้น้ำทั้งหมดขององค์กร และร้อยละ 14 ของปริมาณการใช้น้ำในสาขาที่มีระบบดังกล่าว ซึ่งมีการนำน้ำที่ผ่านการบำบัดกลับมาใช้ในกิจกรรมที่เหมาะสม เช่น ระบบสุขาภิบาล และการรดน้ำต้นไม้ในพื้นที่สีเขียว ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถนำน้ำกลับมาใช้ซ้ำได้คิดเป็นร้อยละ 14.9 ของปริมาณน้ำที่ใช้ในกิจกรรมรีไซเคิล ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงศักยภาพในการต่อยอดแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนด้านทรัพยากรน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในด้านการจัดการน้ำเสีย บริษัทฯ ได้ดำเนินงานควบคุมระบบบำบัดน้ำเสียอย่างเข้มงวด โดยเลือกใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงและเหมาะสมกับบริบทของแต่ละพื้นที่ อาทิ ระบบบำบัดน้ำเสียแบบเติมอากาศโดยใช้ตะกอนเร่ง (Sequencing Batch Reactor: SBR) ระบบบำบัดแบบหลุมลึกแนวตั้ง (Deep Shaft) และระบบบำบัดของหน่วยงานรัฐในบางพื้นที่ โดยในปี 2567 บริษัทฯ ปล่อยน้ำเสียสู่แหล่งน้ำสาธารณะหลังการบำบัดแล้วจำนวน 5.75 ล้านลูกบาศก์เมตร และส่งไปบำบัดเพิ่มเติมโดยหน่วยงานภายนอกอีก 2.2 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยไม่มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับคุณภาพการจัดการน้ำเสียทั้งในช่วงก่อสร้างและหลังเปิดดำเนินการ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ริเริ่มนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำ เช่น การใช้โอโซนในระบบหอระบายความร้อน (Cooling Tower) เพื่อลดการใช้น้ำใหม่ (Make-up Water) และลดปริมาณการปล่อยน้ำทิ้ง (Bleed-off) รวมถึงการนำไอน้ำคอนเดนเสทจากระบบปรับอากาศกลับมาใช้ในระบบต่าง ๆ เพื่อทดแทนน้ำใหม่

บริษัทฯ ตระหนักถึงความเชื่อมโยงระหว่างการใช้น้ำกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในกระบวนการผลิต ขนส่ง และบำบัดน้ำ จึงได้ผสานกลยุทธ์การบริหารจัดการน้ำเข้ากับแผน Net Zero 2593 โดยถือเป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในระดับองค์กร ทั้งยังสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้แก่ เป้าหมายที่ 6 ว่าด้วยน้ำสะอาดและสุขาภิบาล เป้าหมายที่ 12 ว่าด้วยการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน และเป้าหมายที่ 13 ว่าด้วยการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

เทคโนโลยีและมาตรการบำบัดน้ำเสีย

บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ใช้เทคโนโลยีบำบัดน้ำเสียที่ทันสมัย เช่น ระบบ Sequencing Batch Reactors (SBRs) และกระบวนการบำบัดเบื้องต้น ก่อนปล่อยน้ำคืนสู่ระบบสาธารณะ โดยมีมาตรฐานในการจัดการน้ำเสียเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งส่งเสริมการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง และกระตุ้นการแปรรูปและรีไซเคิลขยะเพื่อเพิ่มประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรที่ใช้

การสร้างคุณค่าและผลกระทบเชิงบวก

แนวทางการบริหารจัดการน้ำของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ไม่เพียงช่วยลดปริมาณการใช้น้ำและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้ำเสีย แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและลดต้นทุนด้านการบริหารจัดการทรัพยากร นอกจากนี้ การดำเนินมาตรการที่เป็นระบบยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งลูกค้า ผู้เช่า และพันธมิตรทางธุรกิจ อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานและชุมชนโดยรอบ

ด้วยการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ก้าวสู่การเป็นองค์กรผู้นำด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง

ผู้ประกอบการร้านค้า ผู้เช่าอาคาร ลูกค้าโครงการที่พักอาศัย
พนักงาน
ลูกค้า
คู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ
ชุมชน / ตัวแทนชุมชน รวมหน่วยงานกำกับ ภาครัฐ ภาคการศึกษา องค์กรอิสระ