การบริหารจัดการขยะและของเสีย

บริษัทฯ ได้กำหนดเป้าหมายด้านการจัดการของเสียในระยะยาวอย่างชัดเจน เพื่อผลักดันแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนให้เกิดผลในทางปฏิบัติ และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม โดยตั้งเป้าลดปริมาณขยะฝังกลบลงอย่างน้อยร้อยละ 50 ภายในปี 2568 เพิ่มสัดส่วนของเสียที่ไม่เข้าสู่หลุมฝังกลบเป็นร้อยละ 75 ภายในปี 2573 และมุ่งสู่เป้าหมาย Zero Waste หรือการเบี่ยงเบนของเสียออกจากหลุมฝังกลบให้ได้ร้อยละ 100 ภายในปี 2593 เป้าหมายเหล่านี้ได้รับการผนวกรวมเข้ากับแผน Net Zero 2593 เพื่อสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการลดการปล่อยคาร์บอนตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า

• ในปี 2567 บริษัทฯ สามารถรวบรวมข้อมูลของเสียจากศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน และคอมมูนิตี้มอลล์รวม 63 แห่ง ได้ทั้งสิ้น 92,231 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 12 โดยมีของเสียจำนวน 41,235 ตันที่ได้รับการคัดแยกเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ หรือแปรรูปเป็นทรัพยากรอื่น คิดเป็นอัตราการเบี่ยงเบนของเสียจากหลุมฝังกลบ (Waste Diversion Rate) ที่ร้อยละ 45 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับปีดังกล่าว การดำเนินการนี้สะท้อนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การบริหารจัดการขยะในระดับองค์กร และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม
• นอกจากขยะทั่วไป บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการจัดการของเสียประเภทพิเศษอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยในปี 2567 มีการจัดการขยะอันตรายและขยะติดเชื้อรวม 20 ตัน และขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-Waste) อีกจำนวน 2 ตัน ซึ่งได้รับการจัดการอย่างเหมาะสมผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรที่ได้รับการรับรอง เช่น กรมควบคุมมลพิษ และผู้ประกอบการรีไซเคิลที่ได้มาตรฐาน
• บริษัทฯ ยังคงดำเนินโครงการส่งเสริมการรีไซเคิลร่วมกับพันธมิตรในหลากหลายภาคส่วน อาทิ โครงการ “ถังวนถุง by มือวิเศษ” ที่มุ่งเน้นการแยกขยะพลาสติกแบบยืดเพื่อนำไปรีไซเคิล โครงการ “โละแล้วไปไหน” ที่ร่วมมือกับแบรนด์ Sabina ในการบริจาคชุดชั้นในเก่า และโครงการ “คืนชีวิตให้ขวดพลาสติก” ร่วมกับ Nestle เพื่อเปลี่ยนขวดพลาสติกเป็นเสื้อรีไซเคิล กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงเสริมสร้างจิตสำนึกด้านการจัดการของเสียในหมู่ผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นการขับเคลื่อนนวัตกรรมและความร่วมมือในระบบนิเวศของเศรษฐกิจหมุนเวียน
• ในมิติด้านสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ได้วิเคราะห์ผลกระทบของการจัดการของเสียต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยพบว่าในปี 2567 กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับของเสียมีส่วนในการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในขอบเขตที่ 3 (Scope 3) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11 ของการปล่อยทั้งหมด จึงได้กำหนดมาตรการลดของเสีย เช่น การแยกประเภทขยะตั้งแต่ต้นทาง การรีไซเคิล และการนำวัสดุทดแทนมาใช้ เพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ
• อีกหนึ่งประเด็นที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญคือ การจัดการของเสียจากงานก่อสร้าง โดยได้นำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในโครงการก่อสร้างใหม่หลายโครงการ เช่น การนำคอนกรีตเก่ามาแปรรูปเป็น RCA (Recycled Concrete Aggregate) การนำแผ่นโลหะและตู้คอนเทนเนอร์กลับมาใช้ใหม่ และการจัดการหัวเสาเข็มกว่า 10,000 ตัน ร่วมกับเครือข่าย Circular Economy in Construction Industry (CECI) ซึ่งสามารถนำกลับไปใช้ในโครงการอื่นภายในองค์กรโดยไม่ต้องขนส่งออกนอกพื้นที่ ทั้งนี้ช่วยลดของเสียจากการก่อสร้าง รวมถึงลดการปล่อยคาร์บอนจากการขนส่งได้อย่างมีนัยสำคัญ
• ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างระบบการจัดการของเสียอย่างยั่งยืน ครอบคลุมทั้งมิติของประสิทธิภาพการดำเนินงาน ความปลอดภัย และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเชื่อมโยงกับเป้าหมายด้านการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำในระยะยาว