
การพัฒนาชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน
เป้าหมายและผลการดำเนินงาน

ผลการดำเนินงาน
เป้าหมาย

ผลการดำเนินงาน
เป้าหมาย

ผลการดำเนินงาน
เป้าหมาย
ความท้าทายและโอกาสทางธุรกิจ
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มีการดำเนินธุรกิจที่ครอบคลุมหลากหลายพื้นที่และมีส่วนร่วมกับชุมชนที่แตกต่างกัน ทำให้เกิดทั้งความท้าทายและโอกาสในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน บริษัทฯ ต้องรับมือกับความหลากหลายของความต้องการในแต่ละพื้นที่ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะและลำดับความสำคัญที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องมีแนวทางที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับให้เหมาะสมกับแต่ละบริบท นอกจากนี้ การพัฒนาโครงการให้สอดคล้องกับความต้องการและค่านิยมของชุมชนถือเป็นความท้าทายสำคัญ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังต้องให้ความสำคัญกับการวัดผลกระทบทางสังคมของโครงการพัฒนาชุมชน ซึ่งมีความซับซ้อนและต้องอาศัยกระบวนการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ การมีส่วนร่วมกับชุมชนในระยะยาวเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องมีการจัดสรรทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและสามารถส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนได้อย่างแท้จริง
ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) มองเห็นโอกาสในการสร้างคุณค่าให้กับชุมชนผ่านการเสริมสร้างศักยภาพของคนในพื้นที่ โดยการให้การฝึกอบรม จัดหาทรัพยากรที่จำเป็น และเปิดโอกาสให้เข้าถึงตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถสร้างคุณค่าร่วม (Shared Value) โดยการกำหนดทิศทางธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน ทำให้เกิดประโยชน์ร่วมกันทั้งต่อองค์กรและสังคมโดยรวม
บริษัทฯ ยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ท้องถิ่น ผ่านแพลตฟอร์มและโครงการต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างความภาคภูมิใจให้กับชุมชน รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นผ่านการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น การเข้าร่วมกิจกรรมในชุมชน และความร่วมมือในโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม
แนวทางการบริหารจัดการและการสร้างคุณค่า
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เชื่อมั่นว่าการเติบโตทางธุรกิจควรเดินควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน ด้วยวิสัยทัศน์ในการเป็น "ศูนย์กลางการใช้ชีวิต" บริษัทฯ ไม่ได้เป็นเพียงผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่ยังเป็นแรงขับเคลื่อนที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน
เพื่อให้การสร้างคุณค่าร่วมกับชุมชนเป็นไปอย่างเป็นรูปธรรม บริษัทฯ ได้กำหนดกลยุทธ์การพัฒนาชุมชนตามนิยาม 4 กลุ่ม ได้แก่ (1) ชุมชนโดยรอบโครงการ (รัศมี 8-10 กิโลเมตร), (2) ชุมชนในจังหวัดหรือจังหวัดใกล้เคียง, (3) กลุ่มเปราะบางที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ เด็กและเยาวชนชายแดน และ (4) หน่วยงานรัฐและภาคสังคม ซึ่งสอดคล้องกับหลักการ “ก้าวไปด้วยกัน ผูกพันยั่งยืน” ที่มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมอย่างครอบคลุม
นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินการวัดผลกระทบของโครงการเพื่อประเมินคุณภาพชีวิตของชุมชนและนำข้อมูลมาใช้ปรับปรุงแนวทางการมีส่วนร่วมในระยะยาว พร้อมจัดสรรงบประมาณ ทรัพยากรบุคคล และพื้นที่ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง
การสร้างคุณค่าร่วมกันกับชุมชน
บริษัทฯ กำหนดแผนการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับกลยุทธ์ในการสร้างคุณค่าร่วมกันกับชุมชน โดยมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศและของท้องถิ่นให้เจริญขึ้น เกิดการกระจายรายได้ไปยังจังหวัดต่าง ๆ จนถึงในระดับชุมชนและระดับครัวเรือน รวมไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งที่จะส่งเสริมและสนันบสนุนให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนในชุมชนดีขึ้น โดยบริษัทฯ ได้นำสินทรัพย์ ทรัพยากร และความสามารถที่องค์กรมีอยู่ มาใช้ในการดำเนินการเพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างโอกาส สร้างพื้นที่เพื่อสาธาณประโยชน์ และสร้างความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมท้องถิ่น
โดยการจัดสรรและสนับสนุนพื้นที่ในโครงการเพื่อประโยชน์ร่วมกันทั้งต่อลูกค้า ชุมชน และความยั่งยืนขององค์กร โดยพื้นที่ที่จัดสรร ได้แก่
- พื้นที่เช่าบางส่วน หรือพื้นที่ถาวร (ระยะเวลาการสนับสนุนตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป)
- พื้นที่ทางการตลาด หรือพื้นที่ชั่วคราว (ระยะเวลาการสนับสนุนไม่เกิน 30 วัน)
- พื้นที่อื่นๆ เช่น พื้นที่ลานด้านหน้า พื้นที่ดาดฟ้า พื้นที่ริมระเบียง
-
การบริการประชาชนของภาครัฐ
ร่วมมือกับภาครัฐในการตั้งศูนย์บริการประชาชน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน และลดความแออัดของหน่วยงานราชการที่บางธุรกรรมมีเพียงแค่แห่งเดียวในจังหวัด ปัจจุบันจัดตั้งแล้วทั้งสิ้น 39 แห่ง ได้แก่ ศูนย์บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ (G Point, Government Center, อำเภอยิ้ม) 15 แห่ง สำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว 11 แห่ง และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 2 แห่ง
-
การสนับสนุนสุขภาพที่ดี
ร่วมมือกับโรงพยาบาล สำนักอนามัย หรือสภากาชาดไทย ในการตั้งศูนย์ให้บริการด้านสาธารณสุขและดูแลสุขภาพเพื่ออำนวยความสะดวกด้านสาธารณสุขให้กับประชาชน ปัจจุบันจัดตั้งแล้วทั้งสิ้น 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์รับบริจาคโลหิตแบบถาวร 2 แห่ง สถานีอนามัย 9 แห่ง ในส่วนการบริจาคโลหิตนั้น ในปี 2567 โครงการ Central Tham “Give Blood Give Love” ดำเนินการบริจาคโลหิตได้รวมทั้งสิ้น 16.88 ล้านซีซี คิดเป็น ร้อยละ 83 ของยอดบริจาคโลหิตทั้งหมดของโครงการ
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้จัดสรรพื้นที่ด้านหน้าศูนย์การค้าหรือชั้นดาดฟ้าในโครงการที่เอื้ออำนวย เพื่อส่งเสริมการออกกำลังกายป้องกันก่อนเกิดโรค และร่วมกับสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิส ในการเป็นเจ้าภาพร่วมจัดการแข่งขันกีฬาเทเบิลเทนนิสระดับประเทศ โดยสนับสนุนงบประมาณ และพื้นที่ในศูนย์การค้า 7 แห่ง 6 จังหวัด มีผู้เข้าแข่งขันและผู้ชมกว่า105,300 คน อีกทั้งร่วมสนับสนุนโครงการสอนกีฬาเทเบิลเทนนิสในโรงเรียน จำนวน 6 โรงเรียน 6 จังหวัด สร้างนักกีฬาเยาวชน 163 คน
-
การศึกษาและเยาวชน
สนับสนุนและให้พื้นที่แก่เยาวชนเพื่อหาความรู้นอกห้องเรียน เช่น ร่วมมือกับ TK Park ในการเปิดพื้นที่แหล่งรวมสาระความรู้และความเพลิดเพลินให้เยาวชนและประชาชนทั่วไป ณ เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 8 รวมไปถึงการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงออกอย่างสร้างสรรค์ทั้งในด้านความรู้ เช่น แสดงผลงานวิทยานิพนธ์จบการศึกษา การแข่งขันด้านการศึกษา และในด้านสันทนาการ เช่น แสดงดนตรี แข่งขัน crossword cosplay การสอบวัดความสามารถทางวิชาการ แข่งขันกีฬาหมากรุก งานเตรียมตัวสอบเพื่อศึกษาในระดับอุดมศึกษา
-
การส่งเสริมวัฒนธรรมอันดี
สนับสนุนและส่งเสริมการเผยแพร่วัฒนธรรมอันดีในชุมชน อาทิ
- ด้านศาสนา เช่น ศาสนาพุทธ ได้แก่ จัดงานมีเทศน์ มีทอล์ค งานพัฒนาจิตเพิ่มสมดุลย์ชิวิต งาน Mindfulness Habits Fest 1 'New Year New You ฝึกสติให้เป็นนิสัย' รวมไปถึงการนิมนต์พระมารับบิณฑบาต ศาสนาอิสลาม ได้แก่ จัดงานการอ่านคัมภีร์อัลกุร่าน
- ด้านประเพณี เช่น จัดพื้นที่เพื่อกิจกรรมทำบุญตักบาตรในวันพระใหญ่ จัดกิจกรรมสรงน้ำพระในวันสงกรานต์ งานเทศกาลประจำจังหวัด งานอนุรักษ์มรดกไทย ประกวดเทวีศรีสยาม
-
จุดจำหน่ายสินค้าชุมชน
เป็นการจำหน่ายสินค้าภายในท้องถิ่นที่ผลิตหรือเป็นการเปิดพื้นที่เพื่อจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นแบบข้ามจังหวัดในรูปแบบพื้นที่ถาวร เช่น โซน Hug Craft (ภาคกลาง) กาดหลวง (ภาคเหนือ) มหานคร (ภาคใต้)
-
กิจกรรมทางการตลาดเพื่อชุมชน
ได้แก่ กิจกรรมทางการตลาดแบบอีเว้นท์ เช่น งาน OTOP งานของดีประจำจังหวัด งาน Sacit เพลิน craft งานโครงการหลวง งาน Famer market งานจำหน่ายผลไม้ประจำจังหวัด งานจำหน่ายผัก ผลไม้ล้นตลาด
-
“ตลาดจริงใจ ฟาร์เมอร์มาร์เก็ต”
ร่วมกับเซ็นทรัล ทำ และกลุ่มเซ็นทรัลสนับสนุนเกษตรกรท้องถิ่นที่ปลูกผักและผลไม้แบบอินทรีย์และแบบปลอดภัยให้ได้มีพื้นที่จำหน่ายสินค้า ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้จัดตั้งตลาดจริงใจ ฟาร์เมอร์มาร์เก็ต ในศูนย์การค้าของบริษัทฯ แล้วจำนวน 16 สาขา หรือคิดเป็นร้อยละ 50 ของจำนวนทั้งหมด
-
จัดสรรพื้นที่ฟรีให้กับผู้พิการ
ได้จําหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยถูกต้องตามกฎหมายและคำนึงถึงประโยชน์ของผู้พิการเป็นที่ตั้ง โดยในปี 2566 มีผู้พิการจํานวน 34 ราย เข้าร่วมโครงการดังกล่าว คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 0.6 ต่อพนักงานทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่าทางสังคมเท่ากับ 7.9 ล้านบาท
-
การสร้างสาธารณประโยชน์ให้กับชุมชน
- เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับชุมชน และบริษัทฯ ไปพร้อมกัน อาทิ การสร้างสะพานกลับรถ สะพานลอย ทางเชื่อมรถไฟฟ้า การขยายช่องจราจร การขุดลอกคูคลอง
- เพื่อประโยชน์แก่ชุมชนเป็นหลัก อาทิ การสร้างสถานีอนามัยในเขตแจ้งวัฒนะ ห้องน้ำสาธารณะต้นแบบในสวนลุมพินี การสร้างศูนย์กระตุ้นและส่งเสริมพัฒนาการเด็กโรงพยาบาลตำรวจ ให้กับโรงพยาบาลตำรวจ สนับสนุนกิจกรรม "Colorful ผดุงกรุงเกษม" ให้แก่กรุงเทพมหานคร
- เพื่อประโยชน์ด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ จัดสรรพื้นที่สำหรับสวนสาธารณะ ในบริเวณใกล้เคียงศูนย์การค้า และจัดกำลังคนและทรัพยากรในการดูแล เช่น เซ็นทรัลปาร์ค เซ็นทรัลพระราม 2 สวนสาธารณะโคราชริเวอร์ วอล์ค เซ็นทรัล โคราช สวนปทุมวนานุรักษ์ เซ็นทรัลเวิลด์
-
กิจกรรมจิตอาสา หรือ กิจกรรม Belief in Actions - Community Day
โดยเชิญชวนพนักงานให้ลงมือปฏิบัติจริงในงานอาสาที่สามารถทำได้ในการทำงานประจำวัน อาทิ การสมัครเป็นพนักงานจิตอาสาให้บริการประชาชน ทำหน้าที่ประจำหน่วยบริการฉีดวัคซีน งานจิตอาสาช่วยกันบรรจุถุงยังชีพและกระสอบทรายเพื่อช่วยผู้ประสบอุทกภัย งานจิตอาสาร่วมบริจาคโลหิต งานอบรมให้ความรู้การดับเพลิง และวิธีเผชิญเหตุให้กับเยาวชนและนักเรียน กิจกรรมทำความสะอาด Big Cleaning Day ขุดลอกคูคลองและลำรางใกล้ศูนย์การค้า
-
การช่วยเหลือและเยียวยากรณีประสบภัย
ดำเนินการภายใต้การบริหารจัดการภาวะภัยพิบัติในชุมชน ที่คำนึงถึงการนำสินทรัพย์ที่องค์กรมีอยู่และและบุคลากรที่มีความชำนาญมาให้ความช่วยเหลือและเยียวยาชุมชนในยามประสบภัย แบ่งกระบวนการออกเป็น การรับมือเมื่อชุมชนเกิดเหตุ การเยียวยา และการฟื้นฟูชุมชน ภายใต้สถานการณ์ภัยจากธรรมชาติ ภัยจากมนุษย์ และโศกนาฏกรรม ซึ่งจะดำเนินการในความร่วมมือกับกลุ่มเซ็นทรัล และมูลนิธิเตียง จิราธิวัฒน์ โดยในปี 2566 แบ่งเป็น การช่วยเหลือขั้นพื้นฐาน โดยสนับสนุนถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดลำปาง จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดสุพรรณบุรี กว่า 1,500 ครัวเรือน และการช่วยเหลือระยะฟื้นฟู โดยปรับปรุงอาคารและพื้นที่สาธารณประโยชน์ให้กับชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมสูง ในจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดอยุธยา จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดชัยภูมิ กว่า 500 ครัวเรือน โรงพยาบาล และเหล่ากาชาด 2 แห่ง กลุ่มชุมชนท่องเที่ยว และวิสาหกิจชุมชน 3 แห่ง
-
ผ่านการจัดซื้อ จัดจ้าง
- การจัดจ้างและผลิตของขวัญปีใหม่ของบริษัทฯ ภายใต้แนวคิด “ของขวัญทำดี” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อสานฝัน สร้างโอกาส พัฒนาอาชีพและสร้างรายได้ ให้กับกลุ่มคนที่แสวงหาโอกาสและต้องการการยอมรับในสังคม โดยนำของเหลือใช้ รอทิ้ง เช่น ขวดนํ้า ฝาขวดนํ้า และป้ายโฆษณา มาแปรสภาพให้เป็นวัสดุหลัก ผสานอัตลักษณ์และภูมิปัญญาวิถีชุมชนทางภาคใต้สรรค์สร้างเป็นของขวัญปี 2567
- การจัดซื้อสินค้าสิ้นเปลืองภายในท้องถิ่นหรือภูมิภาคใกล้เคียงเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค รวมไปถึงการจัดซื้อสินค้าจากผู้ผลิตเครือข่ายชุมชน ตัวอย่างเช่น การจัดซื้อน้ำยาล้างมือ จาก ปฐม ออร์แกนิก ลิฟวิ่ง รายได้ปันกลับสู่ชุมชน และการจัดจ้าง Organizer จัดกิจกรรมทางการตลาด ระดับท้องถิ่นในภาคใต้ มูลค่ารวมกว่า 26 ล้านบาท
- การจัดซื้อจัดจ้างในกิจกรรมพนักงานสัมพันธ์ อาทิ กิจกรรมนวดบำบัดสำหรับพนักงาน โดยผู้พิการทางสายตาซึ่งจัดเป็นประจำทุกเดือน รวมอัตราจ้างทั้งสิ้น 15 คน
-
โครงการ Go Local Love Local
ร่วมมือกับการท่องเที่ยวระดับจังหวัดและภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการท่องเที่ยวระดับจังหวัด ในการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวชุมชน โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์ โดดเด่น เน้นวัฒนธรรมความเป็นอยู่วิถีชุมชนแบบผสมผสานแบบท้องถิ่นและร่วมสมัย และเพื่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยกับผู้ประกอบการรายย่อยในระดับท้องถิ่น โดยในปี 2566 ได้เปิดตัว 2 เส้นทาง คือ เส้นทางเขาหินพับผ้า จังหวัดนครศรีธรรมราช และเส้นทางสายมูเตลู จังหวัดนครราชสีมา
-
โครงการปลูกป่า 1 ล้านต้น
โดยความร่วมมือกับกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการจัดจ้างผู้ชำนาญการและคนในชุมชนในการปลูกและดูแลป่า แม้วัตถุประสงค์หลักเพื่อชดเชยการปล่อยคาร์บอนขององค์กรแต่ได้ประโยชน์ทางอ้อมในการสร้างงานให้กับคนในชุมชน และสร้างความมีส่วนร่วมในการดูแลผืนป่าในอนาคต โดยดำเนินการปลูกป่าแล้วในพื้นที่ป่าอนุรักษ์จังหวัดชลบุรี และพิษณุโลก
-
ด้านการศึกษา
ในปี 2567 ได้ดำเนินการพัฒนาทั้งสิ้น 15 สถานศึกษา ใน 7 จังหวัด ได้แก่ 1) โครงการสนับสนุนฐานการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และห้องเรียนอาชีพ 2) โครงการการจัดการแข่งขันเพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์ AI 3) โครงการพัฒนาทักษะภาษาจีนและภาษาอังกฤษ 4) โครงการก่อสร้างเรือนนอนสำหรับเด็กที่ไม่มีที่อยู่ 5) สนับสนุนมูลนิธิสานอนาคตการศึกษาคอนเน็กซ์ อีดี ครอบคลุมเด็กนักเรียน 7,196 คน ครู 300 คน นอกจากนั้น ยังได้สนับสนุนทุนการศึกษาผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา จำนวน 825 ทุน 650 โรงเรียน ใน 20 จังหวัด แบ่งเป็น สนับสนุนทุนการศึกษาผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาให้กับนักเรียนยากจนพิเศษ เพื่อเพิ่มโอกาสในการศึกษา จำนวน 710 คน ใน 20 จังหวัด และสนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาในระดับอาชีวศึกษา จำนวน 114 คน ใน 3 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี เชียงใหม่ และนครราชสีมา
-
ด้านการพัฒนาชุมชน
- ตลาดจริงใจ ฟาร์มเมอร์มาร์เก็ต ซึ่งในปี 2566 สามารถช่วยเหลือเกษตรได้กว่า 40,000 ราย 10,200 ครัวเรือน และสร้างรายได้หมุนเวียนสู่ชุมชนท้องถิ่นกว่า 300 ล้านบาท
- โครงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้ อาทิ ศูนย์การเรียนรู้ผ้าทอนาหมื่นศรี ศูนย์การเรียนรู้พุทธนิเวศเกษตรอินทรีย์ ไร่เชิญตะวัน โครงการกาแฟภูชี้เดือน โครงการวิถีชีวิตยั่งยืนแม่ทาชุมชนริมน้ำตลาดทรัพย์สินท่าไข่
- การจัดงานแสดงสินค้าเพื่อชุมชนระดับชาติ เช่น งาน Thailand Rice Fest 2023 เทศกาลกินข้าวใหม่และสินค้าข้าวสร้างสรรค์
-
ด้านการพัฒนาผู้ที่ต้องการโอกาส
ร่วมกับสโมสรกีฬาเซ็นทรัล สนับสนุนโครงการส่วนพระองค์ภา (บีบีจี) เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนที่ก้าวพลาด และอยู่ในความดูแลของสถานฝึกอบรม สถานสงเคราะห์ และสถานพินิจ ได้รับการฝึกทักษะกีฬา เพื่อฟื้นฟูจิตใจและร่างกาย เมื่อมีโอกาสสามารถนำทักษะด้านกีฬาที่ฝึกฝนเป็นสัมมาอาชีพ ทั้งเป็นนักกีฬาอาชีพ หรือเป็นครู ผู้ฝีกสอนต่อไป โดยมีเด็กเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 218 คน
การดูแล และพัฒนาชุมชนให้เติบโตอย่างยั่งยืน
บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานการแสดงความรับผิดชอบต่อชุมชนในทุกพื้นที่ที่เข้าไปดำเนินงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดจากการดำเนินงานของบริษัทฯ พร้อมสร้างสัมพันธ์อันดีกับชุมชน ผ่านการส่งเสริม สนับสนุน พัฒนา และเยียวยา ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น โดยบริษัทฯ ได้กำหนดแนวทางการดำเนินงานเพื่อส่งเสริมการเติบโตของชุมชนอย่างยั่งยืน ดังนี้
ช่องทางการรับฟังเสียงจากชุมชน
การลดผลกระทบเชิงลบ
บริษัทฯ กำหนดแผนงานลดผลกระทบเชิงลบต่อชุมชนออกเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงระหว่างการก่อสร้าง และภายหลังการเปิดบริการแล้ว โดยมีกลไกในการลดผลกระทบแบ่งออกเป็น การป้องกัน การรับฟัง การแก้ไข การเยียวยา และการปรับปรุงสำหรับโครงการต่อ ๆ ไป ผลกระทบเชิงลบในปี 2566 ที่ได้รับแจ้งจากช่องทางการรับฟังเสียงชุมชน (เฉพาะจากช่องทางรับข้อร้องเรียนออนไลน์) ส่วนใหญ่เป็นผลกระทบในเรื่อง
- เสียงรบกวนจากการก่อสร้างและการดำเนินงาน
- การก่อสร้างส่งผลกระทบถึงทรัพย์สินของชุมชน
- ฝุ่น ควัน และกลิ่น จากการดำเนินการทั้งของบริษัทฯ ผู้เช่า หรือลูกค้าโดยตรง
- ปัญหาจราจร
- ความปลอดภัยในการใช้บริการ
พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและคุณภาพชีวิต
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับการพัฒนา เศรษฐกิจ แต่ยังมุ่งเน้นการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบศูนย์การค้า ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานร่วมกับภาครัฐ อาทิ การจัดตั้ง "G Point" หรือ Government Center ภายในศูนย์การค้า เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐ ได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมืองให้มีความเป็นระเบียบ และปลอดภัยยิ่งขึ้น ผ่านโครงการขยายช่องทางจราจร และการปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้สะอาดและสวยงาม
ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน
ด้วยความตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินโครงการ "ปลูกป่า 1 ล้านต้น" เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและชดเชยการปล่อยคาร์บอน นอกจากนี้ยังมีโครงการด้านเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น "Drive & Drop Recycle Station" ซึ่งเปิดโอกาสให้ลูกค้าและผู้ประกอบการสามารถนำขยะรีไซเคิลมาส่งคืน เพื่อนำกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตใหม่
มุ่งเน้นความปลอดภัยและอาชีวอนามัยของชุมชน
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงานและชุมชนโดยรอบ โดยนำมาตรฐาน ISO 45001 มาใช้ในการบริหารจัดการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย อีกทั้งยังมีการอบรมให้ความรู้แก่พนักงานและคู่ค้าเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติงานที่ปลอดภัย และกำหนดมาตรการเฝ้าระวังในพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับชุมชนใกล้เคียง
เดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางแห่งความยั่งยืน
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เชื่อว่าการเติบโตของธุรกิจต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านแนวคิด "Creating Shared Value (CSV)" บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสร้างเมืองที่น่าอยู่ ส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน เพื่อให้ชุมชนสามารถเติบโตไปพร้อมกับบริษัทฯ ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน